9 วิ ธีนี้ ช่วยคุณเก็บเงินแ ก้นิสัยมีเงินติดตัว แล้วอยากใช้ตลอด

--Advertisement--

9 ทริค ปรับพฤติกรรมการใช้เงินแบบง่าย ๆ สำหรับใครที่มีปัญหาพกเงินติดตัวแล้วอยากใช้ตลอด จนไม่มีเงินเก็บสักที

เป็นกันไหมเวลามีเงินติดตัวแล้วอยากใช้ตลอด กล้าควักซื้อของราคาแพง ๆ แบบง่ายดาย เรื่องนี้มีงานวิจัยด้านจิตวิทยาอธิบายไว้ว่า เพราะการใช้เงินช่วยเพิ่มความสุขได้ จึงไม่แปลกถ้าเราจะอยากซื้อนู่นซื้อนี่เมื่อพกเงินจำนวนมาก

อย่างไรก็ตาม แม้การใช้เงินจะทำให้มีความสุขในช่วงเวลานั้นก็จริง แต่หากใช้มากจนเกินตัว อาจนำมาสู่ความทุกข์ภายหลังได้เช่นกัน

วันนี้เราจึงมีทริคง่าย ๆ เอาไว้แก้ปัญหามีเงินติดตัว แล้วอยากใช้ ต้องทำอย่างไรถึงจะออมเงินเก็บเงินอยู่

1. สร้างเป้าหมายให้ตัวเอง

คนส่วนมากที่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยจนไม่มีเงินเก็บ เหตุผลหนึ่งก็เพราะไม่รู้ว่าจะเก็บเงินไปทำไม เพราะฉะนั้นลองหาเป้าหมายที่ชัดเจนของตัวเองดูว่าเก็บเงินเพื่ออะไร เป็นจำนวนเท่าไหร่ ภายในระยะเวลาแค่ไหน

2. เหลือเงินไว้น้อย ๆ ในบัญชีที่ใช้ทำธุรกรรมออนไลน์

สมัยนี้คงปฏิเสธการใช้ I ntern et Ba nki ng ไม่ได้แล้ว เพราะเป็นช่องทางที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย

แต่นี่แหละที่ทำให้การใช้จ่ายเงินทำได้ง่ายเหลือเกิน เผลอไม่ทันไรก็กดซื้อของจนเงินเกลี้ยงบัญชีแล้ว ดังนั้นแนะนำว่าสำหรับบัญชีเงินฝากที่มี Int ernet Ban kin g ลองให้เงินเหลือติดบัญชีนั้นน้อย ๆ เข้าไว้ หรือกำหนดไปเลยว่าเดือนละไม่เกินเท่าไหร่ เพื่อจะได้จำกัดการใช้เงิน ไม่ให้หมดไปกับของฟุ่มเฟือยแบบไม่รู้ตัว

3. อย่าพกเงินสดเยอะ

คนที่เก็บเงินไม่อยู่ส่วนมากแล้ว มักจะควบคุมการใช้เงินในแต่ละวันของตัวเองไม่ได้ เห็นอะไรก็อยากซื้อ อยากได้ไปหมด

เคยสังเกตไหมว่า เวลาเรามีแบงก์พันติดกระเป๋าทีไร มักจะหมดเร็วทุกที พอมีเงินเยอะแล้วทำให้เรากล้าซื้อ เพราะฉะนั้น วิธีแก้ง่าย ๆ คือ อย่าพกเงินสดติดกระเป๋าเยอะ แต่เปลี่ยนมาใช้วิธีกำหนด ไปเลยว่าจะใช้เงินไม่เกินวันละกี่บาท ก็พกเท่านั้นพอ

4. เปลี่ยนมาซื้อของที่มีมูลค่าเติบโตในอนาคต

ถ้าคิดว่าตัวเองยังติดนิสัยชอบใช้เงิน อยากซื้อของตลอดเวลาอยู่ เอาเป็นว่าแทนที่จะไปซื้อของฟุ่มเฟือย ลองเปลี่ยนมาลงทุนกับสินค้าแบรนด์เนม

หรือของสะสมที่มีมูลค่าเติบโตต่อได้ในอนาคตดีกว่าไหม เช่น กระเป๋า รองเท้า นาฬิกาแบรนด์ดัง หรือของสะสมหายาก เป็นต้น

--Advertisement--

เพราะเมื่อเวลาผ่านไป สินค้าเหล่านี้มักมีมูลค่าที่เพิ่มขึ้น สามารถนำไปขายต่อได้ นับเป็นการลงทุนอีกรูปแบบหนึ่งที่น่าสนใจ

อย่างไรก็ดี คุณก็ต้องมีความเข้าใจสินค้านั้น ๆ และตลาดให้ดีด้วย เพราะอาจเสี่ยงขาดทุนได้ง่าย ๆ เช่นกัน

5. หาคนช่วยเก็บ

เก็บเงินเองยากนัก ลองมาทุกวิธีแล้วก็ยังไม่สำเร็จสักที ก็หาคนใกล้ตัวมาช่วยดูแลให้หมดเรื่องไปเลย โดยควรเป็นคนในครอบครัว

เช่น พ่อ แม่ พี่น้องที่ไว้ใจได้ หรือคู่สามี ภรรยา แล้วนำเงินไปฝากไว้กับคนนั้นให้เขาช่วยดูแล เพราะถ้าเก็บไว้กับตัวเองรับรองไม่มีเหลือแน่

6. เก็บเงินในรูปแบบอื่นที่ไม่ใช่เงินสด

หลายคนเห็นเงินสดเป็นไม่ได้ เป็นต้องหยิบออกมาใช้ทุกที เอาเป็นว่าลองเปลี่ยนไปเก็บเงินไว้ในรูปแบบอื่นที่ไม่สามารถถอนออกมาใช้ได้ง่าย ๆ

เช่น เปิดบัญชีเงินฝากประจำ หรือ ซื้อสลากออมทรัพย์ ก็นับเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย

7. นำเงินไปลงทุน

ลองคิดดูเล่น ๆ ถ้าเปลี่ยนเงินที่เราใช้จ่ายฟุ่มเฟือยแต่ละเดือนมาลงทุนแทน เมื่อเวลาผ่านไปเงินจำนวนนั้นจะเติบโตขนาดไหน

ยิ่งปัจจุบันการลงทุนก็มีหลากหลายรูปแบบให้เลือกตามความเสี่ยงที่รับได้ เช่น กองทุนรวม หุ้น ทองคำ อสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น

8. เก็บก่อนใช้

ถ้ารู้ตัวว่าเป็นคนที่ควบคุมการใช้เงินไม่ค่อยได้ เมื่อเงินเดือนออกก็อย่าเพิ่งกดเงินมาเข้ากระเป๋าจนหมด เดี๋ยวจะเผลอจ่ายกระจาย

แต่ควรกันเงินส่วนหนึ่งเพื่อเป็นเงินออมทันที สามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยการเปิดบัญชีสำหรับออมเงินแยกมาต่างหาก

แล้วสมัครบริการโอนเงินอัตโนมัติ หักจากบัญชีเงินเดือน ตามจำนวนที่เราอยากจะออมเลย เช่น เดือนละ 2,000 บาท หรือ 10% ของรายได้

9. เลี่ยงเข้าเว็บไซต์ช้อปปิงออนไลน์

ถ้าอยากเก็บเงินให้ได้จริง ๆ เลี่ยงได้เลี่ยงไปเลยกับเว็บไซต์ช้อปปิงออนไลน์ เพจขายของ เพจบอกโปรโมชั่น รวมโปรโมชั่นต่าง ๆ จะได้ไม่ต้องเห็นสินค้าล่อตาล่อใจจนเกิดกิเลส ทำเงินหายเกลี้ยงในพริบตาเหมือนที่ผ่านมา

ใครที่มีปัญหาเก็บเงินไม่อยู่ ใช้จ่ายเกินตัว ลองนำวิธีเหล่านี้ไปปรับพฤติกรรมการใช้เงินกันดู เลือกวิธีที่เหมาะกับตัวเอง แล้วเริ่มเลยตั้งแต่วันนี้

ที่มา banjongthailand

--Advertisement--