เมืองไทยเมืองแห่งพุทธศาสนา มีวัดวาอารามเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ ซึ่งไม่ว่าจะเทศกาลไหน วัดก็ยังเป็นสถานที่ยอดนิยมอยู่เสมอ ทำให้วัดกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวไปด้วย การได้เข้าไปเที่ยววัด เพื่อไปชมสถาปัตยกรรมกรรมที่งดงามซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดนั้น และภาคอีสานของประเทศไทยก็มีวัดสวยงามมากมาย ทั้งวัดเก่าโบราณ และวัดที่สร้างขึ้นมาใหม่ ซึ่งเราได้รวบรวม 10 วัดสวยในภาคอีสานมาฝากสายบุญ สายเที่ยววัด อย่าพลาดไปตามเที่ยวชมกันนะคะ
1. วัดเนรมิตวิปัสสนา จ.เลย
เดิมชื่อว่า วัดหัวนายูง ตั้งสง่าบนเนินเขา อุโบสถเจดีย์สร้างมาจากศิลาแลงทั้งหลังสวยงาม หาชมยากเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของวัดนี้ ภายในชมภาพจิตรกรรมพุทธประวัติทั้งหมด 48 ภาพ นมัสการพระพุทธชินราชจำลองพื้นที่โดยรอบจัดแต่งสวนให้ดูร่มรื่น ดึงดูดให้เข้ามาทำบุญ แถมยังเก็บภาพสวยๆของวัดกลับไปได้.
การเดินทาง ด้วยรถยนต์จากตลาดอำเภอด่านซ้ายผ่านวัดโพนชัย ผ่านพระธาตุศรีสองรัก ขับรถเลยมาอีกหน่อย จะเห็นแยกซึ่งจะมีป้ายของวัดเนรมิตวิปัสสนา ให้เลี้ยวขวาขึ้นไปบนเนินเขาอีก 500 เมตร ก็จะถึงบริเวณวัด
2. วัดป่ากุง จ.ร้อยเอ็ด
ภายในพระเจดีย์เป็นที่ประดิษฐาน พระบรมสารีริกธาตุ รอบวัดเป็นทุ่งนา และทุ่งยาสูบในฤดูแล้ง
การเดินทาง ด้วยรถยนต์ จากตัวเมืองร้อยเอ็ด ใช้เส้นทางอำเภอวาปีประทุม ขับตรงไปประมาณ 20 กิโลเมตร สังเกตป้าย ไปอำเภอศรีสมเด็จ ให้เลี้ยวขวา ประมาณ 9 กิโลเมตร ก็จะถึงวัดป่ากุง หรือวัดประชาคมวนาราม
3. วัดหนองแวง จ.ขอนแก่น
เข้าไปนมัสการพระมหาธาตุแก่นนคร หรือพระธาตุเก้าชั้นฐานสี่เหลี่ยมจำลองแบบมาจากพระธาตุขามแก่น ภายในวัดชั้นบนสุดเป็นที่ประดิษฐานพระจุลธาตุ 4 องค์ ตั้งอยู่ 4 มุมและมีกำแพงแก้วพญานาค 7 เศียรล้อมรอบ มีความสวยงามเป็นสถาปัตยกรรมสมัยทวาราวดีผสมผสานอินโดจีน พร้อมชมวิวทัศนียภาพเมืองขอนแก่นในแบบพาโนรามา สวยงามมาก
การเดินทาง ด้วยรถยนต์ เมื่อเข้าสู่จังหวัดขอนแก่น จากสี่แยกประตูเมืองไปตาม ถนนศรีจันทร์ ผ่านตลาดบางลำพู แล้วเลี้ยวขวาเข้าถนนกลางเมืองผ่านสถานีตำรวจอำเภอเมืองไปประมาณ 400 เมตร วัดหนองแวงจะอยู่ซ้ายมือ
4. วัดหนองตะเคียน จ.ศรีสะเกษ
วัดโบราณสมัยกรุงศรีอยุธยา ชมความสวยงามสถาปัตยกรรมศิลปะขอมผสมล้านนาพระอุโบสถโดดเด่นด้วยสีขาวทั้งหลัง ภายในเข้าไปนมัสการพระศรีอริยเมตไตรย (หลวงพ่อสีทันดร) เป็นพระประธาน ข้างพระอุโบสถเป็นลานพระพุทธรูปสีขาวปางสมาธิ ประดิษฐานอยู่ 28 องค์ วางเป็นแนวยาวสี่เหลี่ยม
การเดินทาง ด้วยรถยนต์จากตัวเมืองศรีสะเกษ ใช้เส้นทางหลวง 221 (ศรีสะเกษ – กันทรลักษ์) ขับไปเรื่อยๆจนถึงกิโลเมตรที่ 13 เลี้ยวซ้ายเข้าหมู่บ้านตะเคียน ไปตามทางหมู่บ้านอีก 5 กิโลเมตร วัดจะอยู่ทางซ้ายมือ
5. วัดโพธิ์ชัย จ.หนองคาย
เดิมชื่อว่า วัดผีผิว เคยใช้เป็นสถานที่เผาศพ ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น วัดโพธิ์ชัย ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ภายในพระอุโบสถประดิษฐาน หลวงพ่อพระใส มีพระพุทธลักษณะอันงดงาม พร้อมชมมหัศจรรย์ชิ้นส่วนหงอนพญานาค และพระธาตุปิดถ้ำพญานาคที่มีความสวยงาม เชื่อกันว่าเป็นถ้ำที่พญานาคสามารถลงไปถึงสะดือโขงได้ เล่ากันว่าหากมนุษย์เข้าไปจะไม่ได้กลับออกมาอีก
การเดินทาง ด้วยรถยนต์ เมื่อเข้าเขตตัวจังหวัดหนองคายให้ใช้เส้นทางหลวง 212 มุ่งหน้าไปทางอำเภอโพนพิสัยประมาณ 2 กิโลเมตร จะเห็นวัดโพธิ์ชัยอยู่ทางด้านซ้ายมือ
6. วัดอาฮงศิลาวาส จ.บึงกาฬ
วัดสวยริมฝั่งแม่น้ำโขงบริเวณแก่งอาฮง ขึ้นชื่อว่าเป็นจุดลึกที่สุดของแม่น้ำโขง กระแสน้ำไหลมีลักษณะวนเป็นรูปกรวยขนาดใหญ่ เชื่อกันว่าเป็น “สะดือแม่น้ำโขง” ภายในวัดสงบและร่มรื่น เหมาะแก่การสงบจิตใจปฏิบัติธรรม สามารถมาชมปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ บั้งไฟพญานาค ได้ในช่วงออกพรรษา ภายในพระอุโบสถประดิษฐาน พระพุทธคุวานันท์ศาสดา มีลักษณะเดียวกันกับพระพุทธชินราช
การเดินทาง ด้วยรถยนต์ เมื่อเข้าเขตจังหวัดบึงกาฬ ให้วิ่งตรงต่อไปอีก 25 กิโลเมตร วัดจะอยู่ทางขวามือติดกับแม่น้ำโขง
7. วัดมหาธาตุ จ.นครพนม
ชมความสวยงามสถาปัตยกรรมของพระธาตุนครถอดแบบมาจากพระธาตุพนม มีลักษณะรูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส ภายในบรรจุองค์พระพุทธรูปทองคำ พระบรมสารีริกธาตุและพระธาตุพระสีวลี (ลักษณะคล้ายเม็ดพุทรา) อัญเชิญมาจากประเทศอินเดีย เชื่อกันว่าเป็นพระธาตุของผู้ที่เกิดวันเสาร์ พร้อมชมพระอุโบสถโบราณ สถาปัตยกรรมพื้นบ้านด้านหน้าวัดสามารถไปนั่งเล่นชมวิวแม่น้ำโขงได้
การเดินทาง ด้วยรถยนต์เมื่อเข้าสู่ตัวเมืองนครพนมแล้วขับไปบนถนนสุนทรวิจิตร วัดจะอยู่ริมแม่น้ำ เลียบเขื่อนหน้าเมืองนครพนม
8. วัดโนนกุ่ม จ.นครราชสีมา
หรือวัดหลวงพ่อโต ห่างจากตัวเมืองนครราชสีมาประมาณ 42 กิโลเมตร ชมความสวยงามวิจิตรของสถาปัตยกรรมพระอุโบสถ ที่ประดิษฐานสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี หรือหลวงพ่อโต ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยผู้ที่ก่อสร้างคือ คุณสรพงษ์ ชาตรี ดาราชื่อดังในประเทศไทย ภายในวัดยังมีสวนหย่อมตกแต่งอย่างสวยงามให้นั่งพักผ่อนหย่อนใจ
การเดินทาง ด้วยรถยนต์ จากกรุงเทพฯ ก่อนถึงจังหวัดนครราชสีมา ขับมาบนถนนมิตรภาพ พอถึงอำเภอสีคิ้ว ขับรถผ่านตัวเมืองมาประมาณ 1 กิโลเมตร ให้สังเกตวัดจะอยู่ด้านช้ายมือ
9. วัดมณีจันทร์ จ.บุรีรัมย์
ชมศิลปะการตัดกระจกบนฝาผนังทั้ง 4 ด้านของอุโบสถที่มีความสวยงามแต่ละด้านสะท้อนถึงวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ท้องถิ่นของคนอีสาน ใช้เวลาสร้างกว่า 5 ปีจึงเสร็จ วัดโดดเด่นด้วยเอกลักษณ์ของโบสถ์ทางภาคอีสาน เรียกว่า โบสถ์มหาอุตม์ ที่มีประตูทางเข้าเพียงด้านหน้าด้านเดียว ตามความเชื่อโบราณ หากปลุกเสกวัตถุมงคลในโบสถ์นี้ จะทำให้วัตถุมงคลมีความศักดิ์สิทธิ์มากยิ่งขึ้น
การเดินทาง ด้วยรถยนต์วัดอยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 70 กิโลเมตร จากตลาดพุทไธสง ไปทางด้านทิศตะวันออก ถึงสี่แยกไฟแดง ตรงไปประมาณ 1 กิโลเมตร
10. วัดบูรพาราม จ.อุบลราชธานี
วัดโบราณอายุกว่า 200 ปี เป็นวัดชื่อดังของจังหวัด เพราะในอดีตหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต เคยมาปฏิบัติธรรมจนถือเกิดวิปัสสนากรรมฐาน ภายในวัดนี้ มีพระอุโบสถ หรือสิมอีสานสวยงามสร้างด้วยดินเหนียว ปัจจุบันกรมศิลปากรได้จดทะเบียนเป็นโบราณสถานแล้ว ชมหอไตรบกคู่ เรือนไม้เก่าแก่ มีลวดลายสลักที่สวยงาม
การเดินทาง ด้วยรถยนต์ จากตัวเมืองอุบลราชธานี มุ่งหน้าไปทางตะวันออกประมาณ 2 กิโลเมตร หรือถ้ามาไม่ถูกให้เริ่มต้นที่ทุ่งศรีเมือง ไปทางทิศเหนือจะมีถนนพโลรังฤทธิ์ มุ่งหน้าไปทางขวาเรื่อยๆ จะมองเห็นหลังคาศาลาของวัดบูรพารามสูงเด่น