สุดเลวร้าย!! ยกแก๊งหมู่บ้าน 11 หื่น รุมโทรมดญ.14 ก่อเหตุไม่หยุดฉุดไปขนำ-ยังลอยนวล

--Advertisement--

วันที่ 3 ก.ย.60 ผู้สื่อข่าวรายงาน ที่ สภ.โคกกลอย อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา มูลนิธิมุสลิมเพื่อสันติสาขาภูเก็ต ได้นำ น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 39 ปี อยู่ ต.หล่อยูง อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา แม่ของนางสาวบี (นามสมมติ) อายุ 16 ปี อยู่ ต.หล่อยูง อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา เข้าแจ้งความร้องทุกข์ ต่อ พ.ต.ท.กิตติภูม ถิ่นกลาง สารวัตร(สอบสวน) เพื่อหาตัวกลุ่มคนอีกจำนวนหนึ่งใน อำเภอตะกั่วทุ่ง จ.พังงา นอกเหนือจาก ผู้ต้องหา 3 คน ที่อัยการจังหวัดพังงาได้มีการสั่งฟ้องในข้อหาข่มขืนกระทำชำเรา เด็กหญิงอายุ 14 ปี (ขณะเกิดเหตุ) ไปก่อนหน้าแล้ว

ด้านนายชานนท์ อับดุลล่าห์ จากมูลนิธิมุสลิมเพื่อสันติสาขาภูเก็ต เปิดเผยว่า หลังจากที่ มูลนิธิมุสลิมเพื่อสันติ ได้รับทราบเรื่องจากบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดพังงา ว่ามีเคสที่เป็นชาวมุสลิม มูลนิธิมุสลิมเพื่อสันติจึงได้ให้ส่วนที่เป็นด้านสังคมสงเคราะห์ เดินทางเข้าไปพบปะพูดคุยและพบว่ามีการล่วงละเมิดนอกเหนือจาก 3 รายที่อัยการส่งฟ้องแล้ว มูลนิธิจึงได้ให้ความช่วยเหลือด้านกฎหมาย และอำนวยความสะดวกกับแม่และเด็กหญิงผู้ถูกกระทำชำเรา ในการพบทนายและเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ

โดยเหตุการณ์ดังกล่าวได้เกิดขึ้นตั้งแต่เดือน พฤษภาคม 2559 ซึ่งพบว่าผู้กระทำชำเราในชุดแรกนั้น มีผู้ต้องหาจำนวน 3 คน ที่อัยการได้ทำการส่งฟ้องดำเนินคดีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และทราบว่าต่อมา ผู้ต้องหาชุดแรกได้มีการชักชวนคนในหมู่บ้านเข้ามาร่วมกระทำชำเรากับเด็ก จนกระทั่งมีการนำออกนอกพื้นที่และมีผู้ร่วมกระทำมากขึ้น ซึ่งได้ให้การว่ามีจำนวนมากถึง 6 ครั้งด้วยกัน โดยครั้งที่มากสุดมีผู้ร่วมกระทำชำเราถึง 11 คน ส่วนครั้งอื่นๆ ก็จะมีประมาณ 5-7 คน โดยผู้ต้องหา 3 คนแรกจะเป็นผู้ที่พาน้องคนดังกล่าวไปยังขนำบริเวณชายหาดจนถูกกระทำชำเราเป็นจำนวนถึง 3 ครั้ง และยังพบว่ามีที่อื่นๆ อีก ประมาณ 3 ครั้ง โดยพบว่าการกระทำทุกครั้งจะเป็นช่วงเวลาที่ พ่อ และ แม่ ของ น้อง ออกไปรับจ้างกรีดยางพารา ซึ่งน้องได้ให้การว่าทุกครั้งที่มีการกระทำเป็นการถูกบังคับทั้งสิ้น โดยมีการข่มขู่ว่า หากไม่ยอมจะมีการทำร้ายครอบครัว จึงทำให้เกิดความกังวลและยอมให้กระทำ

--Advertisement--

ขณะที่รายงานข่าวระบุการสอบปากคำผู้เสียหาย ระบุว่า ตัวเองถูกคนร้ายเป็นชาย 3 คนในหมู่บ้าน ประกอบด้วย นาย อ. นาย ล. และ นาย ห. มาข่มขืนกระทำชำเรา ตั้งแต่เดือนพ.ค.2559 จากนั้นเดือนมิ.ย. 2559 นาย อ. บุกเข้ามาที่บ้านช่วงเวลากลางคืน ตอนที่ครอบครัวเหยื่อออกไปกรีดยาง แล้วลงมือข่มขืน

จากนั้นถัดมาไม่กี่วัน นายอ. ก็เข้ามาพร้อมนาย ล. ชักชวนชายคนอื่น เข้ามาก่อเหตุด้วย โดยใช้กำลังบังคับบีบคอ ขู่ทำร้ายร่างกาย นอกจากนี้ยังบังคับให้เสพยาเสพติดลักษณะเป็นผงสีขาวด้วย
ต่อมายังชวนนาย ก. ซึ่งเป็นพี่ชายเพื่อนเหยื่อมาก่อเหตุ นาย ย. นาย ด. นาย บ. ร่วมข่มขืน มีผู้ก่อเหตุ 5 คน

อีกคืนต่อมานาย อ. และ นาย ล. แอบเข้ามาหลังเที่ยงคืน ขณะที่คนในบ้านไปกรีดยาง แล้วลงมือข่มขืน จากนั้นนาย ก. นาย ย. นาย ด. และนาย บ. ก็ลงมือก่อเหตุ รวมผู้ก่อเหตุ 6 คน

นอกจากนี้ยังมีการนำผู้เสียหายไปก่อเหตุนอกบ้าน โดยเมื่อธ.ค. 2559 นายอ. บุกมาหาผู้เสียหายถึงบ้าน แล้วบังคับกระชาก ข่มขู่จะบีบคอให้ตาย พาไปขึ้นรถจยย.ติดต่อกัน 5 คืน

ประกอบด้วย 1.ชายหาดหัวท่า โดยนายอ. พาเหยื่อสาวไปพบนายห. จากนั้นถูกบังคับให้เสพยา แล้วทั้งคู่ช่วยกันจับมือและฉายไฟให้ชายที่ออกจากแนวป่าหลายคนลงมือข่มขืน ประกอบด้วยนาย ย. ชายไทยไม่ทรายชื่อเป็นพี่ชายของเพื่อน ชายไทยไม่ทราบชื่ออีก 3 คน แต่เนื้อตัวมีกลิ่นไม้ คาดเป็นคนงานในโรงไม้ และนายบัง ที่มีอาชีพขายเฟอร์นิเจอร์ รวม 6 คน

2.หน้าหาดป่ามะพร้าวท่าโต๊ะหนู นายอ. พามาพบนาย ห. นำยาเสพติดให้เสพอีกแล้วถูกมัด จากนั้นมีชาย 6 คนมาก่อเหตุ คนแรกเหยื่อไม่รู้จัก แต่จำหน้าได้ คนที่สองคือหมอ อ. คนที่สามนายหาด คนที่สี่ชายไทยอายุ 50 ปี และคนที่ห้าชายไทย อายุ 30 ปี

3.หาดหัวนา นายอ . พามาพบนาย ล. เอายาเสพติดผงสีขาวในฟอยล์บุหรี่ให้สูด จากนั้นพาไปขนำของนายอา มีแสงไฟส่องสว่าง มีคนเยอะมาก มีผู้หญิงอีกคนอายุไม่เกิน 18 ปีอีก 2 คน ถูกผู้ชายในกลุ่มข่มขืนอยู่ จากนั้นนาย ล. ผลักลงไปนอนด้วยแล้วจับมัด มีผู้ลงมือรวม 11 คน

4.-5.ที่หาดหัวนา และขนำของนายอา ซึ่งพบมีหญิงสาวถูกมัดข่มขืนอยู่ด้วยเช่นกัน

ที่มา https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_496228

 

--Advertisement--