แห่ส่องเลขเด็ด! บาตรน้ำมนต์ พิธีสืบชะตา สมภารวัดดัง อันซีนเมืองพะเยา

--Advertisement--

แห่ส่องเลขเด็ด! บาตรน้ำมนต์ ในพิธีสืบชะตา สมภารวัดพระนั่งดิน อันซีนไทยแลนด์ เมืองพะเยา หลังอาพาตมานาน 5 ปี ขณะที่เจ้าอาวาสเตือนสติ อย่างมงายจนเกิดงาม

เมื่อวันที่11 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ วัดพระนั่งดิน ต.เวียง อ.เชียงคำ จ.พะเยา เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. ที่ผ่านมา ชาวบ้านในพื้นที่กว่า 500 คน ร่วมจัดทำพิธีสืบชะตา ให้กับพระครูอภิวัฒนกิตติ์ เจ้าอาวาสวัดพระนั่งดิน ซึ่งอาพาตมานานกว่า 5 ปี ตามแบบประเพณีโบราณล้านนาทางเหนือ โดยมีพระราชปริยัติ เจ้าคณะจังหวัดพะเยา เดินทางมาเป็นประธานในพิธี

ทั้งนี้หลังพิธีการทางสงฆ์เสร็จสิ้น ชาวบ้านสังเกตเห็นน้ำตาเทียนที่หยดลงใส่น้ำมนต์ในบาตรหลวง เป็นจุดๆต่อเนื่องคล้ายเป็นตัวเลข ต่างพากันฮือฮาว่าได้ของดีในงวดที่จะถึงนี้แล้ว ต่างก็พากันถ่ายรูปกดแชร์ไปบนโลกออนไลน์ ตัวเลขที่สังเกตเห็นต่างก็ผุดขึ้นมาตามที่นักเสี่ยงโชควิเคราะห์กัน

ต่อมาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไป วัดพระนั่งดิน เพื่อพิสูจน์ว่ามีนักเสี่ยงโชคไปดูเลขเด็ดหรือไม่ พบ นางกองศรี แสงศรีจันทร์ อายุ 58 ปี ชาว อ.เชียงคำ จ.พะเยา เผยว่า ตนเองมาทำบุญถวายสังฆทาน จุดธูปบูชาเทียนเอาโชคชัย และมาเอาเลขเด็ดในน้ำมนต์บาตรหลวง ตามที่เห็นในโลกโซเชียลที่เขาแชร์กัน

--Advertisement--

นางกองศรีพร้อมเพื่อนนักเสี่ยงโชค จึงเดินเข้าไปดูน้ำมนต์ในบาตรหลวง แล้วถ่ายรูปน้ำตาทียนในบาตร เมื่อพินิจพิจารณาดูสักครู่ จึงเห็นตัวเลขนำโชคและชี้ให้ดู พร้อมบอกให้กับชาวบ้าน และผู้สื่อข่าวว่าตนเองเห็นเลข 5 กับ 6 ในบาตรหลวง และจะนำตัวเลขที่เห็นไปเสี่ยงโชคในวันที่ 16 ธ.ค. ที่จะถึงนี้

ด้าน ท่านพระครูอภิวัฒนกิตติ์ เจ้าอาวาสวัดพระนั่งดิน เตือนสตินักเสี่ยงโชคทั้งหลายว่า ไม่อยากให้คนงมงายไปจนเกินงาม เกินพอดี และอยากให้คนเข้าวัดเพื่อชำระจิตใจ ให้สะอาด สว่างและสงบ มากกว่าที่จะเข้ามาหาเลขหาหวย เพราะนั่นไม่ใช่แนวทางของศาสนาพุทธ เรื่องเลขเรื่องหวยนั้นเป็นเรื่องทางโลก คนเรายังมี รัก โลภ โกรธ หลง อาตมาจึงขอให้มี สติ คิดดี ทำดี มีเมตตา

สำหรับประวัติของ พระนั่งดิน วัดพระนั่งดิน อัศจรรย์อันซีนไทยแลนด์ ตั้งอยู่ ตำบลเวียง อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา เป็นวัดที่องค์พระประธานของวัด ที่ไม่มีฐานรองรับเหมือนกับพระประธานองค์อื่นๆ เคยมีราษฎรสร้างฐานรองรับ เพื่ออัญเชิญพระประธานขึ้นประดิษฐานบนฐานรองรับ แต่ปรากฏว่าพยายามยกเท่าไรก็ยกไม่ขึ้น จึงเรียกสืบต่อกันมาว่า พระนั่งดิน

นอกจากนี้ ผู้เฒ่าผู้แก่เล่าขานสืบกันมาว่า เคยมีชาวบ้าน ได้พากันสร้างฐานชุกชีแล้วได้อันเชิญพระเจ้านั่งดินขึ้นประทับ แต่ได้เกิดเหตุอัศจรรย์ฟ้าได้ผ่าลงมาที่กลางพระวิหารถึง 3 ครา พุทธบริษัททั้งหลายจึงอาราธนาพระเจ้านั่งดิน มาประดิษฐานบนพื้นดินดังเดิม ตราบจนทุกวันนี้

ที่มา https://www.khaosod.co.th/%E0%B8%AB%E0%B8%A7%E0%B8%A2/news_1940865

--Advertisement--