ภัยร้ายใกล้ตัว น้ำยาปรับผ้านุ่มที่หลายคนชอบใช้

--Advertisement--

พูดถึงเรื่องของการซักผ้า เชื่อว่าหลายๆคนจะต้องใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มในการซักเสื้อผ้าแต่ละครั้งอย่างแน่นอน เพราะน้ำยาปรับผ้านุ่มจะช่วยให้เสื้อผ้าของเรานุ่มขึิ้น และมีกลิ่นหอม ซึ่งน้ำยาปรับผ้านุ่มก็มีให้เลือกมากมายหลายกลิ่น แต่สิ่งที่หลายคนไม่รู้คือ น้ำยาปรับผ้านุ่มมีภัยแฝงอยู่โดยที่เราไม่รู้ตัว วันนี้เราได้นำ ภัยจากน้ำยาปรับผ้านุ่มมาให้ได้ดูกันด้วย จะมีอะไรบ้าง ลองไปดูเลยดีกว่าจ้า

ประโยชน์ของน้ำยาปรับผ้านุ่ม
น้ำยาปรับผ้านุ่ม ช่วยให้ผ้ามีความเรียบ นุ่ม ป้องกันการเกิดไฟฟ้าสถิตช่วยให้รีดได้ง่ายลดการยับของผ้า จึงทําให้สิ่งสกปรกติดเนื้อผ้ายากขึ้น และทําให้ผ้าเปียกน้ำยากขึ้น

น้ำยาปรับผ้านุ่มทำงานอย่างไร?
น้ำยาปรับผ้านุ่มทำงานโดยการเคลือบพื้นผิวของเส้นใยผ้าที่มีชั้นบางของสารเคมี ซึ่งสารเคมีเหล่านี้มีคุณสมบัติในการหล่อลื่นจึงทำให้เส้นใยนุ่มนวลและป้องกันการสะสมของไฟฟ้าสถิต แถมยังมีสารที่ทำให้หน้าเตารีดเกิดไฟฟ้าสถิตเล็กน้อยเพื่อทำให้ไม่เกิดแรงต้านทานระหว่างการรีดผ้า จึงช่วยลดรอยยับในเสื้อผ้าได้เล็กน้อย

ส่วนประกอบสำคัญ
ส่วนประกอบสำคัญที่ช่วยให้น้ำยาปรับผ้านุ่มมีคุณสมบัติดังกล่าวคือ กรดมันน้ำ ซึ่งกรดน้ำมันนี้จะยังคงติดคงทนอยู่ในเนื้อผ้าแม้ว่าจะผ่านการซักน้ำและรีดแล้วก็ตาม แต่สิ่งที่ที่ร้ายไปกว่านั้นน้ำมันนี้อาจซึมเข้าสู่ร่างกายทางผิวหนังของคุณ หรือจากการสูดดม นอกจากนี้น้ำยาปรับผ้านุ่มยังประกอบด้วยสารเคมีที่เป็นอันตรายอีกหลายชนิดได้แก่ เอทิลเอซิเทต, เบนซิน เอซีเทต, เบนซิน แอลกอฮอล์ ,เอทานอลและคลอโรฟอร์ม โดยสารเคมีเหล่านี้ต้องควบคุมให้ใช้ในปริมาณที่เหมาะสม เพราะเป็นพิษต่อร่างกายก่อให้เกิดการระคายเคืองและทำลายสุขภาพ มีพิษต่อระบบทางเดินหายใจ ทำให้รู้สึกมึน และเวียนศีรษะ ทำลายตับ ไต โรคโลหิตจาง ซึ่งมีผลต่อระบบประสาทและร้ายที่สุดอาจก่อให้เกิดมะเร็งได้

--Advertisement--

เมื่อได้รับสารเคมีทั้ง ๕ ชนิดเข้าสู่ร่างกาย จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง?

1. สารเอทิลอะซีเตท (Ethyl acetate) ไอระเหยของมันอาจทำให้เกิดอาการง่วงซึมและเวียนศีรษะ ทำให้เกิดการระคายเคืองที่ผิวหนัง ตา และทางเดินหายใจ ใครที่มีอาการเหล่านี้บ่อยๆ แนะนำให้ลองสังเกตตัวเอง และลองปรับเปลี่ยนการใช้ผลิตภัณฑ์น้ำยาปรับผ้านุ่ม

2. สารคลอโรฟอร์ม(Chloroform) ไอระเหยของมันทำให้ร่างกายหมดความรู้สึกหรืออาจถึงขั้นสลบได้ และไอระเหยของมันมีผลกระทบต่อระบบประสาทส่วนกลางทำให้มีอาการปวดศีรษะ เวียนศีรษะ ถ้าคุณหายใจเอาสารที่ความเข้มข้นสูงเข้าไปเป็นประจำจะทำให้หมดสติและเสียชีวิตได้

3. สารเบนซิลแอลกอฮอล์ (Benzyl alcohol) การหายใจเข้าไปจะก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อเยื่อเมือก ทำให้ลำคออักเสบ เกิดอาการไอ หายใจถี่รัว เวียนศีรษะง่วงนอน หากสัมผัสถูกผิวหนังจะก่อให้เกิดการระคายเคืองผื่นแดง เจ็บปวด การกลืนหรือกินเข้าไปจะก่อให้เกิดการระคายเคืองลำคออักเสบ ปวดท้องคลื่นไส้ การสัมผัสถูกตา จะก่อให้เกิดการระคายเคืองตาแดง เจ็บตาตาพร่ามัว เมื่อสารดูดซึมผ่านร่างกาย ทำให้ระบบประสาทส่วนกลางผิดปกติ

4. สารเบนซิลอะซีเตท (Benzyl acetate) การหายใจเข้าไปทำให้เกิดการระคายเคืองต่อเยื่อเมือกมีอาการไอ เวียนศีรษะเมื่อสัมผัสถูกผิวหนังจะก่อให้เกิดการระคายเคืองผื่นแดงการสัมผัสถูกตาจะก่อให้เกิดการระคายเคือง ตาแดง เจ็บตาตาพร่ามัว

5. มัสไซลีน (Musk xylene) เป็นสารก่อมะเร็ง ซึ่งน่ากลัวมาก

ทั้งนี้ จากข้อมูลอันตรายที่กล่าวข้างต้น ถือเป็นความรุนแรงอย่างมาก ทำให้เกิดผลเสียทั้งในด้านร่างกายและทรัพย์สินของทุก ๆ คน หากพบว่าสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค สามารถโทรแจ้งได้ที่ 1166

เป็นยังไงกันบ้างคะ สำหรับภัยแฝงที่อาจจะมากับน้ำยาปรับผ้านุ่ม ใครที่ใช้อยู่ต้องระวังไม่ควรสูดดมมากเกินไป และควรใช้ในปริมาณที่พอดีเท่านั้น

ข้อมูล good-trick.com

--Advertisement--