อยากมีเงินเก็บเดือนละ “5,000 บาท” ต้องมีเงินเดือนเท่าไหร่!

--Advertisement--

กรุงเทพมหานครเมืองฟ้าอมรของหลาย ๆ คน ยังคงขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่มีค่าครองชีพสูงเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก แต่กระนั้นแล้ว..เมืองแห่งนี้ก็ยังคงเป็นจุดหมายของการเข้ามาทำงานของใครอีกหลาย ๆ คน ด้วยการกระจุกตัวของความเจริญยังคงหนาแน่นในพื้นที่เล็ก ๆ ของประเทศแห่งนี้

แน่นอนว่าทุกคนทำงานก็หวังจะมีความก้าวหน้าและมีเงินเก็บไว้ใช้ในอนาคต ทีนี้เรามาลองวิเคราะห์กันดีกว่าถ้าคน ๆ หนึ่งอยากจะมีเงินเก็บสักเดือนละ 5,000 บาทในขณะที่อยู่ในเมืองหลวง จะต้องมีเงินเดือนเดือนละเท่าไหร่

หลักการออมเงินเบื้องต้นคืออย่างน้อย 10% ของรายได้ (ก่อนหักค่าต่าง ๆ) นั่นหมายความว่าถ้าคิดย้อนกลับ คุณควรจะมีเงินเดือน 50,000 บาทต่อเดือนเป็นขั้นต่ำ แน่นอนว่าเป็นไปไม่ได้เลยสำหรับเด็กจบใหม่หรือยังคงยากแม้กระทั่งคนที่ทำงานมาแล้วสักพักก็ตามทีเพราะเงินเดือนของเด็กจบใหม่อยู่ที่ราว ๆ 15,000-18,000 บาท ในขณะที่มนุษย์ชนชั้นกลางส่วนใหญ่ก็ราว ๆ 35,000 บาทโดยเฉลี่ย

และถึงแม้ว่าคุณจะมีเงินเดือน 50,000 บาทแล้วก็ตาม หลังจากหักภาษี ณ ที่จ่าย ประกันสังคมและกองทุนสำรองเลี้ยงชีพในฐานะพนักงานบริษัทคนหนึ่งแล้วก็ตาม คุณยังต้องเผชิญกับค่าบีทีเอส (หากไม่ขับรถเอง) ค่าผ่อนบ้าน-คอนโด ผ่อนรถ (ถ้ามี) ฯลฯ หักไปหักมาเหลือกินต่อวันไม่เท่าไหร่ ดังนั้นคุณอาจจะต้องไม่มีค่าใช้จ่ายที่เป็นภาระอยู่แล้วจึงอาจจะพอเป็นไปได้ที่จะเหลือเก็บ ไม่เช่นนั้นคุณอาจจะต้องมีเงินเดือนสัก 6-7 หมื่นเพื่อจะสานฝันให้เป็นจริง

แต่ถ้ามีไม่ถึงทำอย่างไร?

--Advertisement--

ในความเป็นจริงก็คือไม่ต้องให้ถึง 5,000 แต่เพียงแค่คุณกลับไปสู่พื้นฐานข้อแรกเรื่องออม 10% ของรายได้ต่อเดือน มี 15,000 คุณออม 1,500 ถ้าไม่ได้จริง ๆ คุณออมสัก 500 ก็ยังดีแต่จงเริ่มจากจำนวนที่เป็นไปได้ แม้จะไม่มาก..แต่นับว่าเป็นนิมิตหมายที่ดีก่อนจะไปถึงออมเดือน 5,000 หลังจากที่ออมแล้ว เงินที่เหลือจากการออมนั่นแหละคือเงินที่คุณจะเหลือใช้ในแต่ละเดือน จงท่องไว้เสมอว่า เก็บก่อนใช้ ไม่ใช่ใช้ก่อนเก็บ

ต่อมาคือการ “ไต่เต้า” ทางอาชีพการงาน คุณคงไม่มองภาพตัวเองเงินเดือนหมื่นห้าหรือหมื่นแปดไปตลอดหรอกใช่ไหม? หมั่นพัฒนาตัวเองและมองหาโอกาสอยู่เสมอ สักวันคุณต้องได้เลื่อนขึ้น สักวันคุณต้องได้ย้ายงานพร้อมฐานเงินเดือนใหม่ หลักเก็บ 10% ก็จะตามคุณไปอีกเหมือนเดิม จากเดือนละพันห้าคุณอาจจะขยับเป็นสองพันหรือสามพันก็เป็นได้

หรือจะหันไปประกอบธุรกิจเสริม? เอ้า! ถ้าคุณเหลือเวลาจากงานประจำแล้วอยากขายของจุกจิก หรือจะลาออกมาเปิดธุรกิจส่วนตัวเลยก็ไม่มีใครห้าม แต่เราคงไม่เชียร์ถ้าคุณไม่พร้อมจริง ๆ

จากนั้นคือการทำอย่างไรให้เงินจำนวนที่คุณเก็บงอกเงยขึ้นมา? แบ่งไปเก็บที่อื่นที่ไม่ใช่ในสมุดเงินฝากออมทรัพย์ปกติสิ จะฝากประจำ ซื้อพันธบัตร ประกัน หรือจะลงทุนในกองทุนก็ได้เพื่อไม่ให้เงินของเรานอนอยู่นิ่ง ๆ เป็นผักเป็นปลา

การจะออมเงินให้ได้เดือนละ 5,000 บาทของมนุษย์กรุงเทพฯ ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะค่อย ๆ เริ่ม เมื่อคุณมีก้าวแรกแล้ว อะไรก็หยุดไม่ได้ถ้าคุณพยายามทำต่อ ไม่แน่ว่าถ้าจังหวะชีวิตดี ๆ คุณจะเก็บเดือนละหมื่นก็ยังได้

ขอบคุณข้อมูล thehippothai.com

--Advertisement--