ชาวบ้านแห่ซื้อบัตรสมาร์ตการ์ดวิเศษ ..จุ่มเสกน้ำดื่ม รักษาสารพัดโรค

--Advertisement--

ชาวบ้าน อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น แห่ซื้อบัตรสมาร์ตการ์ด เชื่อใช้รักษาโรคได้หลายวิธี ทั้งแปะติดตัว หรือจุ่มน้ำแล้วดื่ม ราคาใบละ 1,100-1,500 บาท

เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2562 ที่บ้านศาลาดิน ต.ศรีสุขสำราญ อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น มีการซื้อ-ขายบัตรสมาร์ตการ์ด ที่อ้างว่ามีสรรพคุณในการรักษาโรคโดยเฉพาะอาการปวดเมื่อยต่าง ๆ ตามร่างกาย โดยวิธีการใช้คือนำบัตรไปแตะบริเวณที่ปวด หรือนำแก้วน้ำไปวางบนบัตร และนับ 1 ถึง 10 จากนั้นนำมาดื่ม และอีกวิธีหนึ่งคือ การนำบัตรไปจุ่มในแก้วน้ำแล้วนำมาดื่ม ซึ่งวิธีเหล่านี้สามารถช่วยให้อาการปวดทุเลาลงได้

โดยนางทองศรี วงษ์ไชยเวทศ์ อายุ 66 ปี หนึ่งในชาวบ้านที่ซื้อบัตรมาจากนายทวี ในราคา 1,100 บาท เล่าว่า ก่อนหน้านี้ตนมีอาการปวดหลัง และมีน้ำไหลออกมาจากหู เคยไปหาหมอที่โรงพยาบาลก็ไม่หาย จึงได้ลองซื้อบัตรพลังงานนี้มาใช้โดยการนำไปแตะไว้ที่หลัง พบว่าอาการน้ำที่ไหลออกจากหูนั้นหายไป แต่ตนก็ได้กินยาจากโรงพยาบาลที่ให้มาควบคู่ไปด้วย นอกจากนี้ ตนยังใช้วิธีวางแก้วน้ำไว้บนบัตรแล้วอธิษฐานให้หายจากโรค ซึ่งนางทองศรีก็ยอมรับว่า หลังจากใช้บัตรแล้ว อาการปวดหลังยังมีอยู่ แต่ไม่มีน้ำไหลออกจากหูแล้ว ส่วนตัวเชื่อว่าบัตรสามารถช่วยได้ 50 เปอร์เซ็นต์

--Advertisement--

ด้านนายทวี เพียอินทร์ ชาวบ้านศาลาดิน ใน อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น เป็นหนึ่งในผู้ที่ถูกชักชวนเข้าอบรมในการใช้บัตรสมาร์ตการ์ด โดยนายทวี เรียกบัตรนี้ว่า บัตรพลังงาน เพราะสามารถใช้รักษาอาการปวดหลังของตนเองได้ ซึ่งก่อนจะได้บัตรนี้มา มีคนจากบริษัทแห่งหนึ่งมาชักชวนให้เข้าอบรม และสาธิตสรรพคุณของบัตรให้ดู ช่วงระหว่างการสาธิต เมื่อพนักงานนำบัตรมาแตะที่ตัวรู้สึกมีอาการชา และพอนำบัตรออกก็หายจากอาการชานั้น ตนจึงตัดสินใจสมัครเป็นสมาชิกเพื่อจะได้นำสมาร์ตการ์ดกลับมาใช้ โดยสมัครครั้งแรก มีการให้เลขที่บัญชีกับเจ้าหน้าที่ และได้จ่ายเงินไป 4,400 บาท ได้บัตรมา 5 ใบ หลังจากนั้น ตนจึงนำมาบอกต่อคนที่สนใจ โดยขายให้ในราคา 1,100-1,500 บาท เพื่อให้นำไปรักษาอาการปวดเมื่อย ซึ่งหากตนขายได้ และมีสมาชิกเพิ่มก็จะได้เงินเพิ่มเข้ามาในบัญชี

ขณะที่ทีมข่าวได้สอบถามชาวบ้านอีกหลายรายพบว่า ไม่เพียงแค่ชาวบ้านศาลาดินเท่านั้น ที่ซื้อ-ขายบัตรสมาร์ตการ์ด หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าบัตรพลังงาน แต่มีชาวบ้านอีกหลายหมู่บ้านก็มีบัตรลักษณะเดียวกันนี้ พร้อมฝากไปยังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องลงมาตรวจสอบ เพื่อไม่ให้มีผู้เสียหายจากกรณีนี้เพิ่มขึ้นต่อไป


ขอบคุณข้อมูล เฟซบุ๊ก เพจ ฝ่ายข่าว สทท.ขอนแก่น

--Advertisement--