ครม.ไฟเขียว เปิดทางกองสลาก ขายหวยออนไลน์ เพิ่มโทษขายเกินใบละ 80!

--Advertisement--

ครม.มีมติแก้กม.เพิ่มโทษจำคุก1เดือนปรับ 1 หมื่นบาทขายสลากเกินราคาจากเดิมจับปรับแค่ 2 พันบาทและยังห้ามขายให้บุคคลอายุต่ำกว่า 20 ปีและในสถานศึกษา พร้อมชงรื้อกฎหมายเปิดทางออกหวยออนไลน์ ลอตโต้ สมทบรางวัลเงินแจ๊กพอต ล่อใจ โดยวางกฎเหล็กหากไม่มีผู้ถูกรางวัลมารับเงินภายใน 2 ปีส่งคืนรัฐทันที ขณะที่การรวมสลากชุดยังไม่ได้ข้อสรุปคณะกรรมการเตรียมลงพื้นที่ช่วงเดือนพ.ค.-มิ.ย.นี้หากได้ข้อสรุปก็พร้อมเดินหน้า

พ.ต.อ.บุญส่ง จันทรีศรี รักษาการผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 17 เม.ย. 2561 เห็นชอบหลักการแก้ไขเพิ่มเติม ร่าง พ.ร.บ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ.2517 ที่ปรับปรุงเพื่อให้สำนักงานสลากฯดำเนินกิจการเหมาะสมกับสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปและมีประสิทธิ ภาพเพิ่มขึ้น รวมทั้งให้สอดคล้องกับคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 11/2558 เรื่องมาตรการแก้ไขปัญหาการ จำหน่ายสลากฯ เช่น การแก้ไขเพิ่มเติมบทกำหนดลงโทษสำหรับความผิดกรณีการขายสลากฯ เกินราคา จากเดิมระวางโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท เป็นต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ทั้งนี้ การแก้ไขกฎหมายครั้งนี้ ยังเปิดทางให้สำนักงานสลากฯ สามารถออกผลิตภัณฑ์ใหม่ เช่น หวยออนไลน์ หรือลอตโต้ ที่มีรางวัลแจ๊กพอต เป็นต้น โดยได้แก้ไขสัดส่วนเงินรางวัลให้เป็นแบบสมทบด้วย ที่ขึ้นอยู่กับการกำหนดวงเงินเพดานของรางวัลไว้ แต่จะแตกต่างจากผลิตภัณฑ์สลากฯ ชนิดใบในปัจจุบัน หากไม่มีผู้ที่ถูกรางวัลมารับเงินภายใน 2 ปี จะต้องส่งคืนเป็นรายได้ของรัฐ โดยเฉลี่ยจะมีเงินที่ไม่มีผู้มารับรางวัลประมาณงวดละ 100-200 ล้านบาท หรือคิดเป็น 24 งวด จะอยู่ที่ 2,400-4,800 ล้านบาท

--Advertisement--

“การแก้ไขกฎหมายดังกล่าว จะช่วยให้สำนักงานสลากฯ สามารถออกผลิตภัณฑ์ใหม่เพิ่มเติมจากเดิม แต่คงต้องใช้เวลาศึกษารายละเอียด และผลกระทบจากผู้ได้และเสีย ก่อนนำเสนอให้รัฐบาลพิจารณาอีกครั้ง โดยปัจจุบันสำนักงานสลลากฯ จำหน่ายสลากฯ งวดละ 80 ล้านใบ แบ่งเป็น ตัวแทนรายย่อย มูลนิธิ องค์กร ที่เกี่ยวข้องกับคนพิการ 30 ล้านใบ และผ่านช่องทางกรุงไทย 50 ล้านใบ”

สำหรับสัดส่วนเงินรางวัล รายได้ส่งรัฐ และค่าบริหารจัดการสลากฯ โดยร่างแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.สำนักงานสลากฯ ใหม่ ประกอบด้วย เงินรางวัล 60% คงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง, รายได้แผ่นดิน 22% จากเดิม 28%, ค่าบริหารจัดการและค่าใช้จ่ายในการจำหน่ายสลาก 17% จากเดิม 12% การปรับปรุงกฎหมายเพิ่มรายได้ให้กับผู้ขายรายย่อยจากเดิมใบละ 80 บาทรายย่อยจะได้กำไร 5.60 บาท/ใบ ส่วนกฎหมายใหม่ได้กำหนดให้รายได้ของผู้ขายรายย่อยเพิ่มขึ้น หากขายสลากราคา 80 บาทจะมีกำไร 9.60 บาท/ใบ ซึ่งการปรับเพิ่มในส่วนนี้ เพื่อนำมาเป็นส่วนลดสลากฯให้กับผู้ค้ารายย่อยและมูลนิธิ องค์กร ที่เกี่ยวข้องกับคนพิการที่เป็นผู้ค้าสลากฯ ให้มีรายได้เพิ่มขึ้น ส่วนที่เหลืออีก 1% จะนำมาไว้ในกองทุนสลากฯ เพื่อพัฒนาสังคม ตามคำสั่งหัวหน้า คสช.กำหนดให้มี แต่จะกำหนดจำนวนเงินไม่เกิน 1,000 ล้านบาท และหากเงินกองทุนฯ มีจำนวนเกินกว่า 1,000 ล้านบาท ให้สำนักงานสลากฯ นำส่งเป็นรายได้ของแผ่นดิน

นอกจากนี้ ยังกำหนดเพิ่มเติมความผิดกรณีการขายสลากฯ ในสถานศึกษาไม่ว่าจะมีรั้วล้อมหรือไม่ก็ตาม และผู้ใดขายสลากกินแบ่งรัฐบาลแก่บุคคลซึ่งมีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ขณะที่ความคืบหน้าการจัดทำสลากฯรวมชุดอยู่ระหว่างการเปิดรับฟังโดยคณะกรรมการสลากฯจะลงพื้นที่ในช่วงเดือนพ.ค.-มิ.ย.นี้หากได้ข้อสรุปก็พร้อมที่จะดำเนินการทันที โดยคาดว่าจะเห็นผลได้ในช่วงปลายปีนี้ ถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความต้องการของประชาชนที่ต้องการซื้อสลากเพราะได้รับรางวัลจำนวนมาก

 

ที่มา https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_977298

--Advertisement--